เลือกใช้บริการบริษัทส่งของอย่างไร ให้ถูกกับงานแต่ละงาน

บริษัทส่งของ
บริษัทส่งของ

การขนย้ายของ เป็นอะไรที่หลายคนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก เพราะมันหมายถึงงานหนัก และก็เหนื่อยอย่างมาก เพราะกว่าจะขนเสร็จ ก็ไม่ใช่ง่ายๆเลย ต้องเสียเวลาหลายวัน ไหนจะทั้งการยกขึ้น และยกลงอีก ไหนจะจัดเก็บอีก ยิ่งคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่เลย เพราะไม่รู้ว่าจะขนอย่างไร แต่สมัยนี้ มีตัวช่วยเข้ามาให้เราได้เลือกเยอะ ที่จะทำให้การขนย้าย ไม่ว่าจะย้ายของขนาดเล็ก หรือว่าย้ายของขนาดใหญ่ก็ตาม

เพราะมี บริษัทส่งของ เข้ามาคอยช่วยเหลือในเรื่องนี้นั่นเอง ทำให้เราไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่เสียค่าบริการอย่างเดียว เราก็ได้รับความสะดวกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน หรือว่าย้ายของใช้อะไรใหญ่ๆ ก็มีบริการแทบทั้งหมด สำหรับคนที่ไม่เคยใช้บริการมาก่อน ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้รถแบบไหนอย่างไร เราก็มีวิธีการในการเลือก ให้ได้ดูกัน

-การย้ายห้องพัก คนที่เช่าเพียงแค่หอ หรือว่าเช่าแค่ห้องพักอย่างเดียว และต้องการย้ายไปที่ใหม่ หรือว่าย้ายกลับบ้านของตัวเอง วิธีการในการเช่าบริษัทส่งของ ให้มาช่วยจัดเก็บให้  รถที่เหมาะก็คือรถกระบะ เพราะว่าสามารถที่จะเข้าไปยังบริเวณหอพักของเราได้เลย และข้าวของในหอ ก็เชื่อว่าไม่ได้มากมายอะไร ไม่เหมือนกับการย้ายบ้าน ใช้เพียงแค่รถกระบะอย่างเดียว ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานแล้ว

-การย้ายบ้าน เป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร เพราะข้าวของในบ้านแต่ละบ้าน มีจำนวนมาก ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และข้าวของต่างๆ รถของบริษัทส่งของ ที่เหมาะกับการย้ายบ้าน ก็คือรถหกล้อ เพราะสามารถบรรทุกของได้ครั้งละมากๆ โดยที่ข้าวของไม่เสียหาย หรือว่าซ้อนกันจนมากเกินไป ถ้าย้ายไปยังสถานที่ที่ไม่ไกลมาก ก็เลือกใช้เพียงแค่นี้ก็พอ แต่ถ้าเป็นการย้ายข้ามจังหวัดไกลๆ ก็ต้องเลือกทีมงาน ที่มีความเป็นมืออาชีพในการส่งของด้วย เพราะเสี่ยงที่จะเกิดข้าวของเสียหายได้

หรือถ้าคันเดียวไม่พอ ก็สามารถเลือกใช้รถสิบล้อเลยก็ได้ หากไม่อยากจะขนหลายรอบ ต้องการให้เสร็จภายในรอบเดียวไปเลย การใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ถือว่าคุ้มกว่า การใช้รถขนาดเล็ก แต่ว่าต้องขนหลายรอบ

-การย้ายออฟฟิศ ในออฟฟิศแต่ละแห่ง ล้วนมีข้าวของสำคัญมากมายต่อการทำงาน รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่เสียหายได้ง่าย เช่นคอมพิวเตอร์ การใช้บริการ บริษัทส่งของ ต้องเลือกทีมงานที่เป็นมืออาชีพ และต้องมีประสบการณ์ ในการขนย้ายของในออฟฟิศ มาแล้วเท่านั้น เพื่อความมั่นใจว่าของทุกชิ้น จะถูกขนย้ายด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสียหายต่างๆ ต้องเลือกใช้บริษัทที่มีมาตรฐาน มีชื่อเสียงในด้านนี้โดยเฉพาะ จะปลอดภัยที่สุด

จะเห็นว่า แต่ละอย่างแต่ละงานนั้น จะใช้การขนย้ายที่ไม่เหมือนกัน เพราะความสำคัญของของแต่ละอย่าง ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นการใช้บริการ บริษัทส่งของ และใช้รถในการขนย้าย ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการขนย้ายเท่านั้น หากไม่มั่นใจ ก็สามารถที่จะปรึกษา กับเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ทำหน้าที่ขนย้ายก่อนได้ เพื่อขอคำแนะนำในการขนย้ายที่ถูกต้องที่สุด

เลือกต่อประกันรถยนต์ ที่ไหนดีนะ?

ต่อประกันรถยนต์ ที่ไหนดี
ต่อประกันรถยนต์ ที่ไหนดี

หากคุณกำลังจะต้องต่อประกันรถยนต์แต่ไม่อยากต่อกับบริษัทประกันเดิมและกำลังมองหาบริษัทประกันรถยนต์แห่งใหม่แต่ก็ไม่รู้จะไปต่อประกันรถยนต์ ที่ไหนดีขอแนะนำประกันรถยนต์จากรู้ใจค่ะ

  1. ทำไมต้องรู้ใจ?

หลายคนอาจจะสงสัยบริษัทประกันอื่นมีตั้งมากมายมีประวัติมาอย่างยาวนานทำไมต้องเลือกประกันภัยกับรู้ใจด้วยที่เป็นบริษัทเปิดใหม่ไม่กี่ปีนี้ด้วย เพราะรู้ใจได้รับอนญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเรียบร้อยแล้วค่ะ และยังได้รับประกันภัยจากบริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) อีกด้วยค่ะ

  • จุดเด่นของรู้ใจ
  • ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดูแลลูกค้า ปรับเข้ากับยุคสมัยใหม่ที่เน้นช่องทางออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
  • สามารถเช็คราคา ซื้อประกันผ่านทางเว็บไซต์ได้ หรือซื้อผ่านทางโทรศัพท์ก็ได้ค่ะ
  • สามารถปรับรูปแบบความคุ้มครองที่เราต้องการเองได้
  • สามารถแจ้งเคลมผ่านแอปแบบเรียลไทม์และตรวจสภาพรถผ่านวิดีโอคอลได้ด้วยค่ะ
  • ข้อนี้สำคัญมากเลยค่ะ ราคาเบี้ยประกันรถยนต์จากรู้ใจนั้นนอกจากขึ้นอยู่กับแผนประกันชั้นที่เราเลือกแล้วยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและประสบการณ์ขับขี่ของเราด้วยค่ะ จึงมั่นใจได้ว่าเราจะได้ราคาที่ยุติธรรมและเหมาะสมกับการขับขี่ของเราแน่นอน
  • รับประกันราคาหากเจอประกันภัยเงื่อนไขเดียวกันที่ราคาถูกกว่า ทางรู้ใจยินดีคืนเงิน 100% เลยทีเดียวค่ะ
  • รู้ใจมีประกันรถยนต์อะไรบ้าง?

รู้ใจมีทั้ง ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัส ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 3 ให้เราเลือกตามความคุ้มครองและเบี้ยประกันที่เหมาะสมต่อความต้องการของเราค่ะ

  • ประกันรถยนต์จากรู้ใจราคาเท่าไหร่? หากต้องการซื้อประกันต้องทำยังไงบ้าง?

ง่ายมากเลยค่ะเพราะเราสามารถเช็คราคาเบี้ยประกันออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ roojai.com ของรู้ใจได้เลย หลังจากนั้นเพียงแค่กรอกข้อมูลและเลือกข้อมูลตามพฤติกรรมการขับขี่ของเรา เท่านี้ก็จะทราบเบี้ยประกันในเบื้องต้นแล้วค่ะ ที่บอกว่าเบื้องต้นเพราะเราสามารถปรับแต่งแผนและความคุ้มครองได้อีกค่ะ เมื่อเราปรับแผนจนได้ในสิ่งที่เราต้องการครบถ้วนแล้วในส่วนของการชำระเงินเราสามารถชำระทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิตได้ด้วยค่ะ ซึ่งสามารถผ่อนชำระได้ถึง 10 เดือนด้วยกัน แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในเดือนนั้นไม่ให้หนักจนเกินไปค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการต่อประกันรถยนต์กับรู้ใจ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายคนที่สงสัยว่าควรต่อประกันรถยนต์ ที่ไหนดีนะคะ อย่างไรก็ตามอย่าลืมเปรียบเทียบเพื่อหาประกันรถยนต์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดในราคาที่เราจ่ายไหวนะคะ ที่สำคัญการอ่านเงื่อนไขจากกรมธรรม์ควรอ่านให้ละเอียดถี่ถ้วนสอบถามทุกข้อสงสัยให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์สูงสุดของเราด้วยค่ะ

สิ่งที่ต้องระวัง ในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

ร้านเคมีภัณฑ์

สารเคมีที่ใช้ในการกำจัดศัตรูพืชนั้น เป็นสิ่งที่ชาวไร่หรือว่าชาวสวนรู้จักกันนเป็นอย่างดี เพราะใช้กันอยู่เป้นประจำ และสามารถหาซื้อได้ง่ายตาม ร้านเคมีภัณฑ์ ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันก็มีทั้งประโยชน์ และก็มีโทษในทางเดียวกัน เพราะมันเป็นสารเคมี ที่อาจจะเป็นอันตรายกับชีวิตของเราได้ อย่างที่เราเห็นกันในข่าว ที่พบว่ามีคนที่เสียชีวิต หรือไม่ก็เป็นโรคจากการใช้สารเคมีเหล่านี้

ฉะนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อจาก ร้านเคมีภัณฑ์ จะต้องมีการพิจารณาให้ดี ถึงงข้อควรระวังและคำเตือนต่างๆ และการเอามาใช้ ก็ต้องมีการปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านั้นอย่างเคร่งครัด เพื่อวามปลอดภัยของตัวเราเอง ลองมาดูข้อปฏิบัติ ของการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชว่า เราจะใช้อย่างไร ให้มีความปลอดภัยกับชีวิตของเรามากที่สุด

-อ่านข้อปฏิบัติและคำแนะนำ ตามฉลากที่เห็นอยู่ข้างตัวสินค้าที่เราต้องการจะเอามาใช้ พร้อมทั้งหาวิธีป้องกัน และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ หากเกิดเหตุการณ์เป็นเหมือนที่ระบุเอาไว้ เพราะการทำงานเกี่ยวกับสารเคมี มันอาจจะเกิดอันตายกับตัววเราได้ทุกเมื่อ

-ใส่อุปกรณ์ป้องกันให้มิดชิด เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกครั้ง ที่มีการใช้สสารเคมีหรือว่ายาฆ่าแมลงเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชุด ถุงมือ รองเท้า และหน้ากากสำหรับป้องกันสาพิษที่อาจจะเข้าทางจมูกของเรา ข้อนี้เป็นสิ่งที่หลายคนไม่ให้ความสำคัญ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดอันตรายอะไรขึ้น และด้วยความชะล่าใจแบบนี้ ทำให้หลายคนต้องเข้าโรงพยาบาล แลละต้องเจ็บป่วยเป็นโรคมาหลายคนแล้ว เพราะไม่ป้องงกันตัวเองให้ดีนั่นเอง และขณะทำการฉีดพ่น ก็ควรจะอยู่เหนือลมเสมอ ไม่ให้สารเคมีปลิวโดนตัวเรา

-มีอุปกรณ์สำหรับล้าง หากเกิดเหตุการณ์ที่เราต้องล้างชำระร่างงกาย จากการโดนสารเคมี อย่างเช่นเข้าตา หรือว่าโดนผิวหนัง จะต้องมีน้ำสะอาดจจำนวนมาก เอาไว้สำหรับชำระล้างอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง

-อย่าหยิบจับอาหาร สารเคมีทุกอย่างจาก ร้านเคมีภัณฑ์ เมื่อเอามาใช้แล้ว ไม่วรจะเอามือมาหยิบจับอาหาร หรือว่าเครื่องดื่มทุกอย่างเข้าปาก ควรมีการทำความสะอาดให้เรียบร้อยเสียก่อน เพื่อเป็นการป้องกันสารเคมีเข้าสู่ร่างกายของเรา

-ห้ามสัมผัสโดยตรง ขึ้นชื่อว่าสารเคมี ต้องระมัดระวังให้มากเลยว่า ไม่ควรจะให้สัมผัสกับตัวเรา หรือว่าผิวหนังของเราโดยตรง เพราะอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเราได้ ควรมีการป้องกันทุกครั้ง ยกตัวอย่างบางครั้งงหัวฉีดอุดตัน บางคนก็ใช้ปากเป่าเลย ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่อันตรายมาก เสี่ยงที่จะโดนสารพิษ และเสี่ยงที่จะมีอันตรายถึงชีวิตอย่างมาก 

-เก็บให้มิดชิด หลังการใช้สารเคมีที่เกี่ยวกับเกษตรกรรม ควรเก็บให้มิดชิด ให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี่ยง เพราะเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายได้ง่าย และถ้าต้องทิ้ง ก็ควรทิ้งตามถึงขยะที่แยกเอาไว้ให้ถูกต้อง

เพียงแค่นี้ เราก็สามารถใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงจาก ร้านเคมีภัณฑ์ ได้อย่างปลอดภัยแล้ว หากสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นได้ และควรระมัดระวังทุกครั้งของการใช้ อย่าชะล่าใจหรือว่าประมาท เพราะถ้าพลาดกเพียงครั้งเดียว มันก็อาจจะทำให้เราอันนตรายถึงชีวิตได้เลย

หางาน แหล่งหางานยอดนิยมปัจจุบัน

หางาน

 การหางานในปัจจุบันนั้น เป็นสิ่งที่บัณฑิตจบใหม่หลายคน ยังคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหน หางานจากแหล่งใด นั่นอาจจะเป็นเพราะยังไม่มีประสบการณ์ แต่สำหรับผู้ที่ทำงานมาสักระยะจะทราบดีว่า แหล่งหางานยอดนิยม ที่เราจะพบเจองานต่างๆ และมีโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์นั้นมีแหล่งวใดบ้าง  แน่นอนว่าปัจจุบันเราสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยในการเลือกสถานที่ทำงานได้ เพราะฉะนั้นเรามาดูกันว่าเราจะสามารถเลือกได้อย่างไรบ้าง   ที่จะทำให้เรานั้นเพิ่มโอกาสในการหางานได้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น   

หางาน

1.Line@

              การหางาน โดยใช้ไลน์แอดกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถตอบโจทย์ได้จริง และเป็นที่นิยมมากในยุคนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเรามักจะมีไลน์แบบที่เป็น Officialของแต่ละบริษัท ซึ่งในส่วนนี้นอกจากจะเป็นการโฆษณา website หรือโฆษณาตัวบริษัทไปในตัว ทำให้เราได้รู้จักกับบริษัทได้มากขึ้นนั้นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ เป็นการเพิ่มโอกาสสำหรับการทำงานของเรานั่นก็คือบางครั้งจะมีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับตำแหน่งงานที่ว่างของภายในบริษัท ชื่อเราเองก็สามารถที่จะติดตามในเรื่องราวของตำแหน่งที่ว่าได้จากช่องทางนี้

2.แบนเนอร์โฆษณา

              ช่องทางการประชาสัมพันธ์ข่าวสารอารรับสมัครงานจากบริษัทต่างๆ ผ่านแบนเนอร์โฆษณา ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการสร้างงานหรือตำแหน่งงานว่างของแต่ละบริษัท  ซึ่งแบนเนอร์โฆษณาที่ติดอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆมากมายนั้นก็จะมีการบอกถึงตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องหรอกแต่สำหรับบางบริษัทนั้นอาจจะต้องการกลุ่มคนหรือผู้ที่จะเข้าไปเป็นพนักงานภายในบริษัทจำนวนมากก็อาจจะจำเป็นต้องใช้แบนเนอร์โฆษณามาเป็นตัวช่วย ซึ่งเราก็สามารถที่จะเข้าไปศึกษาข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆก่อนที่จะทำการตัดสินใจก็ได้

3.เว็บหางาน

               เว็บที่จะใช้สำหรับการหางานโดยตรง ซึ่งต้องบอกเลยว่าเว็บไซต์เหล่านี้นั้นสามารถที่จะช่วยเราในการค้นหาอาชีพที่เหมาะสมและตรงกับตำแหน่งที่เราต้องการได้ง่ายๆ แต่เราอาจจะต้องมีการจำกัดข้อมูลการค้นหาแบบจำเพาะว่าเราต้องการงานแบบไหนหรือเราจบมาในด้านไหน รวมถึงพื้นที่สำหรับสถานที่ทำงานเราก็สามารถที่จะกำหนดได้เช่นกัน

              ดังนั้น สำหรับใครก็ตามที่คิดว่าอยากที่จะหางานจริงๆทั้ง 3 ช่องทางนี้เป็นตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถหางานได้ในรูปแบบที่ต้องการและตรงกับวัตถุประสงค์แต่บอกเอาไว้ตรงนี้เลยเราเองใช้ช่องทางเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์เพราะบางครั้งหลายคนเลยทีเดียวที่ไม่รู้จักวิธีการใช้งานที่เหมาะสม

เช็คมาตรการช้อปช่วยชาติ 2562 กลางปีนี้ซื้ออะไรดีถึงได้ลดหย่อน

กลับมาอีกครั้งกับมาตรการช้อปช่วยชาติ 2562 หรือ ค่าลดหย่อนช้อปปิ้ง 2561-2562 ที่หลายคนรอคอยเพราะสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการช้อปปิ้งตามเงื่อนไขไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยมาตรการนี้เป็นมาตรการจากรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจของประเทศไทยตามค่าใช้จ่ายแต่ละหมวด โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขมาลดหย่อนตอนคำนวณภาษี ส่งผลให้ลดภาษีบุคคลธรรมดาได้ หรือบางคนยังสามารถขอเงินคืนได้อีกด้วย แต่มาตรการนี้จะมีเงื่อนไขอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างพวกเรามากขึ้น ลองมาติดตามกัน

ค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว (ลดหย่อนภาษี 15,000-20,000 บาท)

ส่งเสริมคนไทยให้เที่ยวเมืองไทยด้วยการลดหย่อนภาษีค่าท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวหมืองหลักที่ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท และเมืองรองลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 20,000 บาท โดยมีเงื่อนไขคือจะต้องเป็นค่าบริการที่ได้จากผู้ประกอบการที่จดทะเบียน เช่น ค่าใช้จ่ายมัคคุเทศน์ที่จดทะเบียนแล้ว โรงแรม ที่พัก หรือโฮมสเตย์ ที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เป็นต้น โดยใบเสร็จรับเงินจะต้องระบุวันที่ระหว่าง 30 เมษายน – 30 มิถุนายน 2562 สำหรับสายเที่ยวอย่าลืมขอใบเสร็จรับเงินมาเป็นหลักฐานกันด้วย

สินค้าเพื่อการศึกษาและกีฬา (ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท)

สำหรับใครที่วางแผนช้อปอุปกรณ์กีฬาหรือสินค้าเพื่อการศึกษาฟังทางนี้ เพราะทุกใบเสร็จมีค่า สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยจะต้องระบุวันที่ระหว่าง 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2562 และยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

สินค้า OTOP (ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท)

ด้านสินค้า OTOP ไทยก็ไม่น้อยหน้า เพราะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เพื่อส่งเสริมธุรกิจภายในชุมชนรวมถึงสนับสนุนให้คนไทยนิยมของไทย โดยหลักฐานที่ใช้คือใบเสร็จรับเงินฉบับเต็มสำหรับการซื้อสินค้าระหว่าง 30 เมษายน – 30 มิถุนายน 2562 และจะใช้ได้กับร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเท่านั้น

หนังสือ หรือ E-book (ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท)

มาตรการช้อปช่วยชาติเอาใจหนอนหนังสือโดยเฉพาะ เพราะค่าใช้จ่ายจากการซื้อหนังสือสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ อีกทั้งมาตรการนี้ยังรองรับทั้งการซื้อหนังสือเล่มและ E-book สามารถใช้สิทธิ์ยาวได้ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2562 โดยใครที่ใช้สิทธิ์ซื้อสินค้ากลุ่มหนังสือหรือ E-book ไปแล้วเมื่อ 1-16 มกราคม 2562 ก็จะต้องนำมาคำนวณรวมแล้วไม่เกิน 15,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นมาตรการที่เอาใจนักอ่านสุด ๆ

โครงการบ้านหลังแรก (ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 200,000 บาท)

เอาใจคนอยากมีบ้านและเป็นการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านของตัวเอง โดยมาตรการนี้สำหรับการซื้อบ้านหลังแรก รวมถึงที่ดิน ห้องชุด คอนโดมิเนียม โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งมีเงื่อนไขคือมูลค่าบ้านต้องไม่เกิน 5 ล้านบาท มีการโอนกรรมสิทธิ์ระหว่าง 30 เมษายน – 31 ธันวาคม 2562 และหลังจากใช้สิทธิ์เจ้าของจะต้องถือครองกรรมสิทธิ์ไปอีก 5 ปี ยกเว้นเฉพาะกรณีเสียชีวิตเท่านั้น

หลังจากที่ทราบกันไปแล้วว่ามาตรการช้อปช่วยชาติ 2562 ให้สิทธิประโยชน์เรื่องใดบ้าง อีกหนึ่งข้อสำคัญคือการเตรียมหลักฐานให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง โดยหลักฐานที่สำคัญคือใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้อง ครบถ้วน จำเป็นต้องมีวันที่ซื้อสินค้าและบริการ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร รวมถึงรายละเอียดสินค้าและบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ อย่าลืมเก็บรักษาไว้อย่างเป็นระเบียบ เนื่องจากอาจต้องใช้เป็นหลักฐานในช่วงยื่นเรื่องขอลดหย่อนภาษีนั่นเอง

การจ่ายภาษีนับว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยผู้มีรายได้ทุกคน ดังนั้น ควรให้ความสนใจและปฏิบัติอย่างถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรหาวิธีประหยัดภาษีของตนเอง และสำหรับใครที่สนใจอยากใช้สิทธิ์เพื่อขอลดหย่อนภาษีกับมาตรการช้อปช่วยชาติ 2562 ที่รัฐบาลจัดให้ อย่าลืมศึกษารายละอียดและเงื่อนไขให้ดีเสียก่อน ที่สำคัญอย่าลืมคำนึงถึงความคุ้มค่า หากคำนวณแล้วพบว่าค่าช้อปปิ้งไม่คุ้มค่ากับเงินที่จะได้จากการลดหย่อนภาษี แนะนำว่าให้หาวิธีอื่นเพื่อให้ประหยัดเงินภาษีได้มากขึ้น

ชอปปิงกับ Shopee ในแคมเปญใน  9.9 แคมเปญใหญ่เอาใจนักชอปแบบจัดหนักจัดเต็ม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://shopee.co.th/m/99

ครบเครื่องเรื่องIT

IT

เรื่องของไอทีในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องที่เราควรที่จะให้ความจำเป็นและความสำคัญอย่างมากที่สุดเลย เพราะเราไม่รู้หรอกว่าการที่เราสนใจในเรื่องของIT นั้นจะทำให้เรานั้นได้รับความรู้ที่มากมายเพียงไหน ทุกอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่ที่เราว่าเราจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีในตัวเรานั้นได้มากน้อยเพียงไหน ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งเลย

                ITนั้นก็คือเทคโนโลยีอย่างหนึ่งที่เราไม่ควรที่จะมองข้ามเราควรที่จะให้ความสนใจและใส่ใจในเรื่องของIT ถึงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่ง เทคโนโลยีในสมัยนี้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องให้ความสนใจอย่างมากที่สุด ยิ่งเป็นในเรื่องของคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ไอแพตหรือเรื่องต่างๆนั้นเทคโนโลยีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างมากที่สุดเลย

                การที่เรามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของไอทีที่มากมายนั้นก็เป็นผลดีอีกอย่างหนึ่งเลยที่จะทำให้เราเองนั้นจะต้องประสบความสำเร็จอย่างมากมายก็เป็นได้เพราะว่าหากมีไอทีใหม่เข้ามาให้เราได้รับความรู้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยเราจะต้องเป็นคนที่เก่งและเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถถึงจะเป็นเรื่องที่ดี

                เทคโนโลยีที่มีในตอนนี้ก็จะเป็นในเรื่องของคอมพิวเตอร์ที่มาแรงเพราะว่าทุกคนที่ทำงานก็จะต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานด้วยกันทั้งนั้น ทุกเรื่องราวนั้นจะเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่สุดที่เราไม่ควรมองข้ามเราจะต้องให้ความสนใจและความสำคัญกับเรื่องของการเรียนรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือIT จะเป็นเรื่องที่ดี

                ยิ่งเรามีความรู้ในเรื่องของคอมพิวเตอร์หรือITมากเท่าไหนก็จะถือว่าเป็นกำไรที่ดีอย่างมากที่สุดที่จะทำให้ตัวเรานั้นประสบความสำเร็จก็เป็นได้อีกด้วย เทคโนโลยีคือเรื่องหนึ่งที่เราต้องให้ความสนใจและความจำเป็นอย่างมากเลย ยิ่งถ้าหากใครที่มีความรู้เรื่องของเทคโนโลยีIT ก็สามารถที่จะนำความรู้ที่เรามีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกก็เป็นได้เช่นกัน

                ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามควรที่จะให้ความสนใจและใส่ใจกับอะไรก็ตามที่จะทำให้ตัวเราเองนั้นประสบความสำเร็จ คนเราจะประสบความสำเร็จนั้นไม่ยากเพียงแต่ว่าเราจะต้องหมั่นเป็นคนที่มีความรู้และความสามารถมากๆเพื่อที่ว่าเวลาจะทำอะไรก็จะได้ประสบความสำเร็จอีกด้วย IT นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดีที่เราต้องให้ความใส่ใจและความสนใจอย่างมากถึงจะเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้ตัวเราเองสามารถที่จะมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย

แหล่งข้อมูลทำธุรกิจ

Business

            บางครั้งเรื่องของการทำธุรกิจออนไลน์หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่ายที่แคบเข้าไปในเว็บไซต์เราก็สามารถที่จะเปิดร้านเองได้ แต่ต้องบอกเลยว่าในส่วนนี้เป็นความคิดที่ผิดเพราะยังมีรายละเอียดสำคัญที่จะทำให้การทำธุรกิจของเรานั้นประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราต้องมาลองดูกันว่าเราสามารถที่จะหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการทำธุรกิจได้จากไหนบ้างเพื่อที่จะทำให้แหล่งข้อมูลที่เราได้รับรู้มานั้นสามารถปรับให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น

1.เว็บไซต์ทั่วไป

            แน่นอนว่าเรื่องของการทำธุรกิจนั้นบางครั้งหลายคนก็อาจจะมีข้อมูลที่พอทราบกันมาบ้าง ส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นข้อมูลที่มาจากระบบทฤษฎีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังไม่เคยผ่านการปฏิบัติซึ่งบอกเลยว่าข้อมูลเหล่านี้ใช้ได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วยังมีข้อมูลอีกมากมายหรือจะเรียกว่าเป็นอาวุธสำคัญอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ในเว็บไซต์หลายแห่งเพราะฉะนั้นลองศึกษาข้อมูลจากสิ่งเหล่านี้ดูก็จะทำให้เราได้อาวุธลับเพิ่มมากยิ่งขึ้นในการทำธุรกิจ

2.ประสบการณ์

            หรือถ้าหากใครมองว่าเว็บไซต์เหล่านี้เป็นเพียงแค่แหล่งข้อมูลเบื้องต้นที่เราเองก็ไม่ได้มั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน บอกเลยว่าสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจเพื่อที่จะนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้นั้นก็อาจจะต้องมาจากประสบการณ์แต่ทั้งนี้บางคนก็จะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรในการเก็บสั่งสมประสบการณ์เพื่อที่จะเอามาใช้ จึงทำให้ประสบการณ์เหล่านี้มีคุณค่าและเป็นตัวช่วยในการลดความเสี่ยงสำหรับการทำธุรกิจ

3.ผู้รู้

            ในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนั้นเราสามารถที่จะไปปรึกษากับทางธนาคารหรือกรมต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจได้แล้ว จากว่าในปัจจุบันนั้นทางรัฐบาลได้มีการสนับสนุนในส่วนนี้มากขึ้นทำให้เราก็จะได้รับแหล่งข้อมูลที่หลากหลายโดยเฉพาะการปรึกษากับผู้รู้หรือผู้ที่มีความเชียววชาญในด้านนี้โดยตรงก็จะทำให้การทำธุรกิจของเรานั้นลดความเสี่ยงในการขาดทุนและมีความเป็นระเบียบในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น

            เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากว่าใครเป็นหนึ่งในมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเรียนรู้ในเรื่องของการทำธุรกิจนั้นบอกได้เลยว่าทั้ง 3 แหล่งข้อมูลที่กล่าวมาสามารถที่จะช่วยได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้บางคนเองก็อาจจะสามารถหาแหล่งข้อมูลเหล่านี้ได้จากคนใกล้ตัวที่เคยทำธุรกิจมาก่อนหรือประสบความสำเร็จกับธุรกิจของตัวเอง ซึ่งถึงอย่างไรก็ตามเรื่องของการทำธุรกิจนั้นการเผชิญด้วยตัวเองจะเป็นการเรียนรู้ที่ดีมากที่สุดเพราะบางครั้งข้อมูลในตำราอาจจะไม่สามารถนำมาใช้ได้หมด

ความแตกต่างของธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์

ธุรกิจออนไลน์

ในปัจจุบันด้วยความที่รูปแบบของการทำธุรกิจนั้นมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นการเปิดร้านค้าต่างๆก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ โดยสำหรับรูปแบบที่เรามักจะรู้จักกันดีคือเป็นรูปแบบสำหรับออฟไลน์และเป็นรูปแบบออนไลน์หรือจะเรียกได้ว่าเป็นแบบที่มีหน้าร้านกับแบบที่เปิดให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตโดยทั่วไป อันนี้บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าถ้าคิดจะเลือกควรที่จะต้องเลือกรูปแบบไหนเพราะสาเหตุอะไรและมีข้อดีอะไรที่น่าสนใจในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำความเข้าใจ

1.เงินทุน

            ในส่วนแรกที่สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนซึ่งก็คือเรื่องของเงินทุนต้องบอกเลยว่าถ้าเลือกที่จะทำธุรกิจออนไลน์แล้ว เราเองสามารถกำหนดงบประมาณของเงินทุนได้ง่ายกว่ารูปแบบของธุรกิจแบบออฟไลน์ที่จะต้องมีหน้าร้าน เนื่องจากว่าในการทำธุรกิจแบบมีหน้าร้านนั้นเราเองก็จำเป็นที่จะต้องลงทุนเพื่อเป็นการสร้างหน้าร้านให้ตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้บริการ แน่นอนว่าในส่วนหนึ่งก็ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนอีกมากมายที่จะมากกว่าการทำธุรกิจแบบออนไลน์

2.การจัดการ

            แล้วต่อมาเรื่องที่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนสำหรับข้อดีและข้อเสียที่มีความแตกต่างกันระหว่างธุรกิจทั้ง 2 รูปแบบ คือ การบริหารการจัดการต้องบอกเลยว่าในรูปแบบออนไลน์เราสามารถที่จะประหยัดเวลาจากการใช้โปรแกรมหรือตัวช่วยต่างๆได้ง่ายกว่า แต่สำหรับรูปแบบธุรกิจแบบออฟไลน์ในส่วนนี้ก็จะมีความยุ่งยากในเรื่องของการจัดการไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เรื่องของเงินทุนไปจนถึงส่วนของแรงงานก็จำเป็นที่จะต้องมีเทคนิคและวิธีในการดูแลและบริหารให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด

3.เวลาพักผ่อน

            ช่วงระยะเวลาแรกสำหรับใครที่ทำธุรกิจแบบออฟไลน์ได้นอนในส่วนนี้อาจจะเรียกได้ว่าไม่มีเวลาพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย ต้องมีการบริหารและคอยจัดการอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีความแตกต่างกับระบบธุรกิจแบบออนไลน์ที่เราเองจะได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ จะว่าเรามีตัวช่วยอย่างระบบอินเทอร์เน็ตและระบบการบริหารในตัว ที่สามารถจะช่วยเราในการรับลูกค้าหรือรับออเดอร์สินค้าได้อยู่ตลอดเวลาแต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องลงมือทำด้วยตัวเอง

            เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับทั้งหมดที่กล่าวมาก็จะแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการทำธุรกิจในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร แต่ถ้ามีต้องบอกแล้วว่าธุรกิจแต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไปนั่นขึ้นอยู่กับความสามารถหรือไลฟ์สไตล์ความชอบของแต่ละคนในการทำธุรกิจ เพราะบางคนนั้นอาจจะไม่ได้ชื่นชอบที่จะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาดังนั้นการทำธุรกิจแบบออนไลน์จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้มากกว่า